เมนู

ถีนมิทธะนั้น ก็ชื่อว่า เป็นอันถือเอาไว้ดีแล้วโดยแท้. แม้ในอิทธิบาทมีวิริยะ
เป็นต้น ก็ทำนองนี้แล. ในสูตรนี้ ทรงแสดงฤทธิ์สำหรับเป็นบาทอภิญญาทั้ง
6 ประการ.
จบอรรถกถาวิภังคสูตรที่ 10
จบอรรถกถาปาสาทกัมปนวรรคที่ 2

รวมพระสูตรที่มีในวรรคนี้ คือ


1. ปุพพสูตร 2. มหัปผลสูตร 3. ฉันทสูตร 4. โมคคัลลานสูตร
5. พราหมณสูตร 6. ปฐมสมณพราหมณสูตร 7. ทุติยสมณพราหมณสูตร
8. อภิญญาสูตร 9. เทสนาสูตร 10. วิภังคสูตร พร้อมทั้งอรรถกถา.

อโยคุฬวรรคที่ 3



1. มรรคสูตร*



ว่าด้วยปฏิปทาแห่งการเจริญอิทธิบาท



[1205] สาวัตถีนิทาน. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก่อนแต่ตรัสรู้ ครั้ง
เราเป็นพระโพธิสัตว์ ยังมิได้ตรัสรู้ ได้มีความคิดอย่างนี้ว่า อะไรหนอ
เป็นบรรดา เป็นปฏิปทาแห่งการเจริญอิทธิบาท เรานั้น ได้มีความคิดอย่างนี้ว่า
ภิกษุนั้นย่อมเจริญอิทธิบาทอัน ประกอบด้วยฉันทสมาธิและปธานสังขารดังนี้ว่า
ฉันทะของเราจักไม่ย่อหย่อนเกินไป ไม่ต้องประคองเกินไป ไม่หดหู่ในภายใน
ไม่ฟุ้งซ่านไปภายนอก และเธอมีความสำคัญในเบื้องหลังและเบื้องหน้าอยู่ว่า
เบื้องหน้าฉันใด เบื้องหลังก็ฉันนั้น เบื้องหลังฉันใด เบื้องหน้าก็ฉันนั้น
เบื้องล่างฉันใด เบื้องบนก็ฉันนั้น เบื้องบนฉันใด เบื้องล่างก็ฉันนั้น กลางวัน
ฉันใด กลางคืนก็ฉันนั้น กลางคืนฉันใด กลางวันก็ฉันนั้น เธอมีใจเปิดเผย
ไม่มีอะไรหุ้มห่อ อบรมจิตให้สว่างอยู่ ด้วยประการฉะนี้ ภิกษุย่อมเจริญ
อิทธิบาทอันประกอบด้วยวิริยสมาธิ . . . จิตตสมาธิ . . . วิมังสาสมาธิและ
ปธานสังขาร ดังนี้ว่า วิมังสาของเราจักไม่ย่อหย่อนเกินไป ไม่ต้องประคอง
เกินไป ไม่หดหู่ในภายใน ไม่ฟุ้งซ่านไปในภายนอก และเธอมีความสำคัญ
ในเบื้องหลังและเบื้องหน้าอยู่ว่า เบื้องหน้าฉันใด เบื้องหลังก็ฉันนั้น เบื้องหลัง
ฉันใด เบื้องหน้าก็ฉันนั้น เบื้องล่างฉันใด เบื้องบนก็ฉันนั้น เบื้องบนฉันใด
เบื้องล่างก็ฉันนั้น กลางวันฉันใด กลางคืนก็ฉันนั้น กลางคืนฉันใด กลางวัน
* มรรคสูตรที่ 1 ไม่มีอรรถกถาแก้